ถกด่วนวันนี้! ‘นายกฯเศรษฐา’รื้องบ67 ทำขาดดุลเพิ่มรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 14 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนัดแรกที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 มีมติเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2567-2570) ฉบับทบทวน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเสนอ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ และเพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในการจัดเก็บหรือหารายได้ การจัดทำงบประมาณ และการก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ต่อไป
โดยมีสาระสำคัญคือการปรับเพิ่มการขาดดุลงบประมาณในปี 2567 จากวงเงินเดิมที่ทำไว้ขาดดุลงบประมาณ 5.93 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 6.93 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลมีกรอบวงเงินเพิ่มเติมที่เป็นรายจ่ายให้รัฐบาลดำเนินการในส่วนนโยบายใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ตามที่หาเสียงไว้ ซึ่งรวมทั้งโครงการที่รัฐบาลจะมีการทบทวนด้วย โดยเมื่อรวมการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว รัฐบาลจะมีวงเงินในการจัดทำงบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ในการประชุม ครม. สำนักงบประมาณได้มีการยกเลิกกรอบวงเงินประมาณเดิมที่รัฐบาลก่อนตั้งไว้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2565 ที่วงเงินรายจ่ายงบประมาณที่ 3.35 ล้านล้านบาท และขาดดุลงบประมาณที่ 5.93 แสนล้านบาทไปก่อน เพื่อให้มีการตั้งกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายใหม่ โดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี และ 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ จากนั้นจะให้หัวหน้าส่วนราชการเสนอโครงการตามกรอบงบประมาณเข้ามาที่สำนักงบประมาณใหม่ภายในวันที่ 6 ต.ค. 2566 โดยคาดว่า พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ในวันที่ 17 เม.ย. 2567
สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณปี 2567 อยู่ที่ 3.48 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณแบบขาดดุลฯ 6.93 แสนล้านบาท ประมาณการรายได้สุทธิที่ 2.787 ล้านล้านบาท ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ 64% และประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2567 อยู่ที่ 3.2% อย่างไรก็ตามในการปรับปรุงกรอบนโยบายการคลังระยะปานกลางในครั้งนี้ จะเป็นการปรับเฉพาะปีงบประมาณ 2567 แต่กรอบงบประมาณปี 2568-2570 ยังคงเดิม
นอกจากนี้ในวันนี้ (14 ก.ย.) นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียกประชุม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ประกอบไปด้วยกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ เพื่อกำหนดกรอบรายจ่ายประมาณประจำปี 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 11.00 น.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง